FILLER

> Filler คืออะไร
ฟิลเลอร์ ( Filler ) หรือสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบของไฮยาลูรอนิค ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก ที่เกิดขึ้นบริเวณต่างๆ ของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก ริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตา ริ้วรอยร่องลึกมุมปาก และยังสามารถนำมาช่วยในการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ได้อีกด้วย เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม และในบางรายที่เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้นทำให้แก้มดูตอบลงก็สามารถใช้ฟิลเลอร์ ในการแก้ปัญหาแก้มตอบได้เช่นกัน และสามารถนำมาใช้ในการบำรุงผิวให้กลับกระชับเปล่งปลั่ง ในบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ หรือบริเวณผิวหน้าอก
หลังฉีดจะช่วยให้ผิวพรรณดูดีขึ้น จากที่เคยมีร่องลึกก็จะดูตื้นขึ้น เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะสามารถช่วยเติมเต็มใยคอลลาเจนที่หายไป ทำให้สภาพผิวดูเต่งตึงขึ้นกว่าเดิม และจะคงอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยลึก หรือต้องการปรับรูปหน้า
> วิธีการทำงานของ Filler
- ฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ผิว: แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ชั้นผิวหนัง โดยใช้เข็มขนาดเล็ก
- ฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึก: ฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม รอยใต้ตา รอยขมวดคิ้ว ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
- ฟิลเลอร์เพิ่มวอลุ่ม: ฟิลเลอร์สามารถเพิ่มวอลุ่มให้กับใบหน้า เช่น เติมเต็มร่องแก้ม เติมคาง เติมริมฝีปาก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และมีมิติมากขึ้น
- ฟิลเลอร์กระตุ้นคอลลาเจน: ฟิลเลอร์บางชนิด เช่น ฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้นคอลลาเจน จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง และยืดหยุ่นขึ้น
- ฟิลเลอร์สลายตัว: ฟิลเลอร์จะค่อยๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ ภายใน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิด และยี่ห้อของฟิลเลอร์
> ข้อดีของ Filler
- ไม่ต้องผ่าตัด:
- เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว:
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ:
- ปลอดภัย:
- ผลข้างเคียงน้อย:
- สามารถแก้ไขได้: หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
> ข้อจำกัดของ Filler
ผลลัพธ์ไม่ถาวร: ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มชั่วคราว ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิด และยี่ห้อของฟิลเลอร์ เทคนิคการฉีด บริเวณที่ฉีด อายุ สภาพผิว การตอบสนองของร่างกาย และการดูแลตัวเอง หลังจากนั้น ฟิลเลอร์จะสลายตัวไปเองตามธรรมชาติ และต้องฉีดซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์
ไม่เหมาะกับทุกคน: ฟิลเลอร์อาจไม่เหมาะกับ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคเลือด
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารประกอบของฟิลเลอร์
ผลข้างเคียง: แม้ว่าฟิลเลอร์จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น
- รอยเข็ม
- รอยช้ำ
- บวม
- แดง
- การติดเชื้อ (แต่พบได้น้อย)
- อาการเหล่านี้มักจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
- ในบางราย อาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น การอุดตันของหลอดเลือด การแพ้ยา ซึ่งอาจต้องแก้ไขโดยการฉีดสลายฟิลเลอร์ หรือการรักษาอื่นๆ
> ระยะเวลาในการเห็นผลของ Filler
โดยทั่วไปแล้ว หลังฉีดฟิลเลอร์จะเริ่มเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นทันที แต่จะยังมีอาการบวมจากการฉีดอยู่ ซึ่งจะค่อยๆ ยุบลงภายใน 2-3 วัน
- ผลลัพธ์เบื้องต้น: เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด
- ผลลัพธ์ชัดเจน: อาการบวมยุบลง เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น ภายใน 1-2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์เข้าที่: ฟิลเลอร์เข้าที่กับผิว เห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง ภายใน 2-4 สัปดาห์
ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์
- ชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์แต่ละชนิดมีความหนืด และคุณสมบัติต่างกัน
- บริเวณที่ฉีด: เช่น ใต้ตา ปาก อาจมีอาการบวมนานกว่าบริเวณอื่น
- เทคนิคการฉีดของแพทย์:
- การตอบสนองของร่างกาย:
- การดูแลตัวเองหลังการฉีด:
> การเตรียมตัวก่อนทำของ Filler
งดยา วิตามิน และอาหารเสริมบางชนิด: เช่น
- แอสไพริน
- วิตามินอี
- น้ำมันตับปลา
- ใบแปะก๊วย
- กระเทียม
- โสม
- อาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก
- อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยช้ำ และเลือดออก
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: อย่างน้อย 1 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น และอาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย
งดสูบบุหรี่: อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด และทำให้แผลหายช้า
การเตรียมตัวในวันฉีดฟิลเลอร์:
- ทำความสะอาดผิวหน้า: ในวันที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด
- งดแต่งหน้า: ในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์
- แจ้งแพทย์: หากมีอาการผิดปกติใดๆ ก่อนการรักษา เช่น เป็นหวัด มีไข้
> ข้อแนะนำหลังทำของ Filler
- ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด ประมาณ 15-20 นาที วันละหลายๆ ครั้ง เพื่อลดอาการบวม ช้ำ
- งดแต่งหน้า: ในบริเวณที่ฉีด ประมาณ 6 ชั่วโมง
- งดสัมผัส กด นวด หรือคลึงบริเวณที่ฉีด:
- งดทาครีม หรือแต่งหน้าบริเวณที่ฉีด: ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- งดออกกำลังกายหนัก เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก: เป็นเวลาอย่างน้อย 1 วัน
- งดอบซาวน่า อบไอน้ำ หรืออาบน้ำอุ่นจัด: เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่: อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดรับประทานยา วิตามิน และอาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก: เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันตับปลา
> FILLER มีกี่แบบ กี่ยี่ห้อ ต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์ ยี่ห้อต่างๆ ที่ผ่าน อย. ในไทย
- Restylane (สวีเดน): เป็นฟิลเลอร์ HA มีหลายรุ่น เช่น Restylane, Restylane Lyft, Restylane Defyne, Restylane Refyne, Restylane Kysse
- Juvederm (อเมริกา): เป็นฟิลเลอร์ HA มีหลายรุ่น เช่น Juvederm Voluma, Juvederm Volift, Juvederm Volbella, Juvederm Volite
- Belotero (สวิตเซอร์แลนด์): เป็นฟิลเลอร์ HA มีหลายรุ่น เช่น Belotero Balance, Belotero Intense, Belotero Volume
- Teosyal (สวิตเซอร์แลนด์): เป็นฟิลเลอร์ HA
- Neuramis (เกาหลี): เป็นฟิลเลอร์ HA
- EPTQ
- Flore
- Fillmed
- Yvoire (เกาหลี): เป็นฟิลเลอร์ HA
- Revolax (เกาหลี): เป็นฟิลเลอร์ HA
- Sculptra (อเมริกา): เป็นฟิลเลอร์ PLLA
ความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ
- ความเข้มข้นของ HA: ฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นของ HA สูง จะอยู่ได้นานกว่า และเหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึก
- เทคโนโลยีการผลิต: ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความหนืด ความยืดหยุ่น และระยะเวลาในการสลายตัว
- คุณสมบัติ: ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีคุณสมบัติ และข้อดีที่แตกต่างกัน เช่น บางยี่ห้อเหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึก บางยี่ห้อเหมาะสำหรับเพิ่มวอลุ่ม
- ราคา: ราคาของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และชื่อเสียงของแบรนด์
การเลือกฟิลเลอร์
การเลือกยี่ห้อ และชนิดของฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ปัญหา และความต้องการ: เช่น ต้องการเติมเต็มร่องลึก เพิ่มวอลุ่ม ปรับรูปหน้า
- งบประมาณ:
- คำแนะนำของแพทย์:
ข้อควรระวัง
- ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ผ่าน อย.
- ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด เพื่อประเมินปัญหา และวางแผนการรักษา
หากคุณสนใจฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกยี่ห้อและการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ
> FILLER ฉีดได้บริเวณไหนบ้าง ?
บริเวณที่นิยมฉีดฟิลเลอร์
- ใต้ตา:
- เติมเต็มร่องลึกใต้ตา
- ลดเลือนรอยคล้ำใต้ตา
- แก้ไขปัญหาใต้ตาโหล
- ทำให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น
- ร่องแก้ม:
- เติมเต็มร่องแก้ม
- ลดเลือนรอยพับ
- ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ขมับ:
- เติมเต็มขมับที่ตอบ
- ปรับรูปหน้าให้ดูสมดุล
- หน้าผาก:
- เติมเต็มหน้าผากที่แบน
- ลดเลือนริ้วรอยบนหน้าผาก
- คาง:
- เติมคางให้ยาวขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
- จมูก:
- เสริมสันจมูก
- ปรับปลายจมูก
- ริมฝีปาก:
- เพิ่มวอลุ่มให้ริมฝีปาก
- ปรับรูปปากให้ได้รูป
- แก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง
- ลดเลือนริ้วรอยรอบริมฝีปาก
- ร่องใต้จมูก:
- ลดเลือนร่องใต้จมูก
- ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- มุมปาก:
- ยกมุมปาก
- ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
- แก้ม:
- เติมเต็มแก้มตอบ
- ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟู
> ผลลัพธ์ของ FILLER
โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- แก้ไขริ้วรอย:
- ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ บนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม รอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตา ริ้วรอยหว่างคิ้ว ริ้วรอยบนหน้าผาก
- ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- เพิ่มวอลุ่ม:
- เติมเต็มส่วนที่ยุบตัวลง เช่น ใต้ตา ขมับ แก้ม
- เพิ่มมิติให้กับใบหน้า เช่น ปรับรูปหน้าให้เรียว V-shape เติมคาง เติมริมฝีปาก
- ยกกระชับ:
- ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย
- ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ปรับรูปหน้า:
- ปรับแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้า เช่น จมูก คาง
- สร้างสมดุลให้กับใบหน้า
- เพิ่มความชุ่มชื้น:
- ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูโรนิก แอซิด (HA) ช่วยอุ้มน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้น ดูเปล่งปลั่ง
ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์
- ผลลัพธ์เบื้องต้น: เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด
- ผลลัพธ์ชัดเจน: อาการบวมยุบลง เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น ภายใน 1-2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์เข้าที่: ฟิลเลอร์เข้าที่กับผิว เห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง ภายใน 2-4 สัปดาห์
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่
- ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ได้นาน 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะค่อยๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ
> Filler ราคาเท่าไหร่?
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 75,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวน shots ที่ต้องใช้สำหรับค่าใช้จ่ายในการปลูกผมอย่างละเอียด สามารถติดต่อสอบถามเพื่อรับคำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ แผนกผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลนวมินทร์ 9
> รีวิว FILLER
โชว์ทั้ง thumbnail วีดีโอจาก youtube ก็สามารถกด play แล้วเล่นในหน้าได้เลย และภาพ
