• Allergan (อเมริกา): เป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรก และเป็นที่นิยมมากที่สุด มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.9%  ผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจน และอยู่ได้นาน เหมาะสำหรับลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า
• Dysport (อังกฤษ): มีขนาดโมเลกุลเล็ก กระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับฉีดบริเวณกว้าง เช่น หน้าผาก ริ้วรอย ลดกราม ลดน่อง
• Xeomin (เยอรมัน): มีความบริสุทธิ์สูงถึง 100% ตัวยาไม่กระจายตัวมาก ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับลดริ้วรอย
• Aestox (เกาหลี): ราคาค่อนข้างถูก ตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เมื่อเราฉีดอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผลลัพธ์การฉีดครั้งต่อไปอยู่ได้ยาวนานมากขึ้นและปริมาณการฉีดก็ลดน้อยลง
• Nabota (เกาหลี): ราคาค่อนข้างถูก มีค่าความบริสุทธิ์ของตัวยาอยู่ที่ 98.7% ผลลัพธ์ชัดเจนและเร็ว  สามารถอยู่ได้ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
• Hugel (เกาหลี): ราคาค่อนข้างถูก มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% เน้นในเรื่องของการเห็นผลไว เหมาะกับการฉีดเพื่อลดริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า แต่ข้อเสียคืออยู่ได้ไม่นาน โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน
• Hutox Inj. (เกาหลี): เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีที่มีมีค่าความบริสุทธิ์ของตัวยาอยู่ที่ 99.8% ซึ่งสูงเทียบเท่ากับโบท็อกซ์จากอเมริกาเลยทีเดียว ผลลัพธ์ชัดเจนและเร็วมาก สามารถอยู่ได้ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
• หลี):BTXA (ฮ่องกง): เป็นโบท็อกซ์ฮ่องกงตัวยามีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% มีจุดเด่นในเรื่องของการลดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น น่องขา ใต้รักแร้ และใช้ลดขนาดกรามปรับรูปหน้าเรียว ทั้งยังสามารถนำมาใช้เพื่อลดริ้วรอยได้ เห็นผลลัพธ์ไวและเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน

ความแตกต่างของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ

• ความบริสุทธิ์: โบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า โอกาสเกิดการดื้อยาน้อยกว่า และผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า
• ขนาดโมเลกุล:
  • โมเลกุลเล็ก กระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับฉีดบริเวณกว้าง
  • โมเลกุลใหญ่ กระจายตัวน้อย เหมาะสำหรับฉีดจุดเล็กๆ
• ระยะเวลาในการออกฤทธิ์: โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ มีระยะเวลาในการออกฤทธิ์ และผลลัพธ์อยู่ได้นานไม่เท่ากัน
• ราคา: ราคาของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อ แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และชื่อเสียงของแบรนด์

การเลือกโบท็อกซ์